โรงเรียนบ้านตาขุน

หมู่ที่ 1 บ้านโคกหมอ ตำบลพะแสง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84230

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

077-397261

ยุคกลาง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของการคิดในช่วงยุคกลาง

ยุคกลาง ในบรรดาลักษณะเฉพาะ ของความคิดของคนยุคกลาง มาโยรอฟแยกรายการต่อไปนี้ การมองย้อนอดีต อนุรักษนิยมหมายถึงอดีต ยิ่งมีความจริงใจและเป็นความจริงมากขึ้น พระคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดและ

เป็นความจริงเพียงอย่างเดียวคือ พระคัมภีร์ซึ่งเป็นการรวบรวมความจริงที่เป็นไปได้ทั้งหมด แต่เนื่องจากพระคัมภีร์ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดเผยเท่านั้น แต่ยังเป็นความลับด้วย เช่น เพราะมันมีความลึกลับบางอย่าง ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านการถอดรหัส

ความหมายของข้อความในพระคัมภีร์เท่านั้น จากนั้นอรรถกถาการตีความพระคัมภีร์ กลายเป็นเป้าหมายหลักของนักปรัชญายุคกลาง และนักเทววิทยา ในแง่นี้การคิดในยุคกลางเป็นการคิดเชิงอรรถาธิบาย

การอธิบายความลึกลับการคิดในยุคกลาง มักมุ่งไปที่การตีความข้อความ จริงอยู่ที่ในระยะต่างๆของการพัฒนาวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ของอรรถกถา คัมภีร์ไบเบิลปฏิบัติต่างกันไป หากในช่วงยุคกลางตอนต้นมีเพียงแนวคิดบางอย่าง จากพระคัมภีร์เท่านั้นที่เป็นเป้าหมาย

การอรรถาธิบายจากนั้นต่อมาช่องว่าง ของการอรรถาธิบายก็ขยายออกไปอย่างมีนัยสำคัญ เศษส่วนของข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิล กลายเป็นเรื่องของการตีความ และในช่วงกลางตอนปลาย ยุคสมัยพระคัมภีร์

เป็นเพียงโอกาส สำหรับการให้เหตุผลทางปัญญา ด้วยเหตุนี้ด้วยการพัฒนาจิตวิญญาณในยุคกลาง นักปรัชญาและนักเทววิทยา จึงได้รับอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดของพวกเขาจึงมีเหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นอิสระจากหลักคำสอนในพระคัมภีร์ไบเบิล

การปฐมนิเทศเชิงอรรถาธิบาย ของการคิดในยุคกลางกำหนดประเภทหลัก ของยุคนั้นไว้ล่วงหน้า ประเภทที่พบบ่อยที่สุดความคิดเห็นพวกเขา ไม่เพียงแต่เขียนถึงข้อความในพระคัมภีร์เท่านั้น แต่ยังเขียนถึงงาน

ของเพลโตและอริสโตเติลด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคืองานเชิงตรรกะของยุคหลัง ความคิดเห็นของโบติอุส ที่มีต่องานเชิงตรรกะของอัลเบิร์ตและโทมัส ควีนาสเกี่ยวกับอภิปรัชญาของอริสโตเติล ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคืออัลฟาราบี

นักปรัชญาที่พูดภาษาอาหรับยุคกลาง ในหนังสือทุกเล่มของครูคนแรก ของยุคกลางในขณะที่สตาจิไรต์ สากลนิยม สารานุกรมของการคิดในยุคกลาง เนื่องจากโลกวัตถุคือการสร้างของพระเจ้า ซึ่งเป็นสากลใน

ธรรมชาติใครก็ตามที่สามารถเจาะเข้าไปในแก่นแท้ของการสร้างสรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้รับความรู้สากลเกี่ยวกับการเป็นลัทธิสากลนิยม ประเภทนี้แสดงออกมาแม้ในชื่อผลงานของนักคิดยุคกลาง มักถูกเรียกว่าบนโลก บนจักรวาล

การแก้ไขต่างจากชาวกรีก ซึ่งการแนะนำปรัชญาขึ้นอยู่กับหลักการ ของความเท่าเทียมกัน ครูและนักเรียนเท่าเทียมกัน การสนทนาในยุคกลางระหว่างครูและนักเรียนเป็นคำแนะนำ ครูพูดความจริงและนักเรียน

ยอมรับพวกเขาอย่างไม่มีข้อสงสัย ซึ่งหมายความว่ายุคกลางไม่รวมรูปแบบการสนทนา ที่สำคัญในการดูดซึมความรู้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เข้าสู่ประวัติศาสตร์ ของวัฒนธรรมยุโรปด้วยข้อพิพาทที่รู้จักกันดี ซึ่งจัดขึ้นตามหลักการครูหรือนักเรียน

จริงอยู่ตามกฎแล้วข้อพิพาทเหล่านี้ว่างเปล่า พวกเขาส่วนใหญ่เป็นทางการและเป็นพิธีกรรม ซึ่งการสะท้อนกลับ วิปัสสนาทางจิตวิทยา คุณลักษณะของการคิดในยุคกลางนี้ แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ในวรรณกรรม

ยุคกลาง

ประเภทที่แพร่หลายเช่นการสารภาพซึ่งผู้เขียน ได้เปิดเผยความคิดของเขาทั้งหมดที่ใกล้ชิด กับผู้อ่านโดยเจาะลึกเข้าไปในส่วนลึก ของห้องปฏิบัติการสร้างสรรค์ของเขา ในแง่นี้การสารภาพสามารถถูกมองว่า เป็นวิธีการทำให้บริสุทธิ์ทางศีลธรรมและการกลับใจ

ซึ่งไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของผู้เขียนเองมากนัก แต่เป็นการสั่งสอนผู้อ่านเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ความสงสัย ความล้มเหลวซ้ำๆ สัญลักษณ์ทุกอย่างถูกทำเครื่องหมาย ด้วยตราประทับของผู้ทรงอำนาจ

โลกทั้งใบเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ของการออกแบบเหนือธรรมชาติ และโดยพื้นฐานแล้วความเข้าใจคือ ความรู้เกี่ยวกับรากฐานขั้นสูงสุด ของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ การไม่เปิดเผยชื่อขาดความรู้สึกของการประพันธ์ส่วนบุคคล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คริสเตียน ทั้งนี้เป็นเพราะสำหรับพระบิดาในศาสนจักร พระเจ้าเป็นผู้สร้างที่แท้จริงและเป็นผู้เขียนส่วนตัวเพียงคนเดียว พวกเขาเองเป็นเพียงผู้แปลความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ ลำดับชั้น

การแบ่งโลกออกเป็นพระเจ้าและสร้างขึ้น เทเลโลจิสติกปรากฏการณ์ของความเป็นจริง มีอยู่ตามการจัดเตรียมของพระเจ้าและในนามของการปฏิบัติ ตามบทบาทที่เตรียมไว้ล่วงหน้าสำหรับพวกเขา คุณลักษณะเหล่านี้พบการแสดงออก ในภาพลักษณ์ของโลกในยุคกลาง

ในมุมมองของบุคคลใน ยุคกลาง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากหลักการและแนวคิดดังต่อไปนี้ วิทยานิพนธ์เรื่องอำนาจทุกอย่างของพระเจ้า ซึ่งสามารถขัดขวางกระบวนการทางธรรมชาติ ความเชื่อที่ว่าธรรมชาติไม่มีค่าอิสระ

มันถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ ความสนใจในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับจินตนาการ อัศจรรย์ ขัดแย้ง ผิดปกติ อัศจรรย์ ในบรรดาปรากฏการณ์ที่อัศจรรย์ และอัศจรรย์ที่เติมเต็มโลก ปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือตัวโลกเอง

สำหรับคนยุคกลางทุกอย่างคือปาฏิหาริย์ และเนื่องจากพระเจ้าสร้างโลก นั่นคือพระองค์ทรงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้น จากนั้นแนวความคิดของปาฏิหาริย์ และสิ่งที่สร้างขึ้นมาพร้อมกัน จุดสำคัญของความเข้าใจ

ในธรรมชาติในยุคกลางคือ ความเชื่อเรื่องการสร้างโลก โดยพระเจ้าจากความว่างเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าเปลี่ยนศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงเชิงความหมาย จากธรรมชาติไปเป็นหลักการเหนือธรรมชาติ กีดกันธรรมชาติของความเป็นอิสระ ตนเอง ความพอเพียง

การเปลี่ยนแปลงสถานะ การให้เหตุผลทางภววิทยาของธรรมชาตินี้ ไม่สนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์เลย ทันทีที่ธรรมชาติสูญเสียสถานะเดิม ของความเป็นจริงที่ไม่มีเงื่อนไข วิทยาศาสตร์แห่งธรรมชาติก็

สูญเสียความหมายเดิม และเริ่มได้รับการพิจารณาทั้งเชิงสัญลักษณ์ หรือในแง่ของประโยชน์เชิงปฏิบัติการ ของการลดลงของความสนใจทางวิทยาศาสตร์ โดยธรรมชาติยังอธิบายได้ด้วยความจริงที่ว่าธรรมชาติ ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยกันไม่ได้ทำให้สามารถรู้สาเหตุ

รวมถึงรากฐานอันสูงสุดของการดำรงอยู่ของตนเองได้ รากฐานขั้นสูงสุด สาเหตุที่ซ่อนอยู่ของธรรมชาติ ไม่สามารถเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ในโลกมนุษย์ได้ ในโลกนี้มนุษย์รับรู้เพียงปรากฏการณ์ ที่ซ่อนความหมายสำคัญ

จากเขาเท่านั้น หลังจากความตายเท่านั้น พระเจ้าจะทรงเปิดเผยสาเหตุและรากฐาน ของการสร้างสรรค์ของพระองค์แก่ผู้คน ดังนั้น การเข้าใจสาเหตุที่ซ่อนอยู่ ของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จึงเป็นสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง

บทความที่น่าสนใจ : เด็กกำพร้า ข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับการรับอุปการะเด็กกำพร้า